เทคนิคงานนำเสนอ..สไตล์เจ๊แซน

มาลองทำสไลด์ [powerpoint] กันแบบหลุดกรอบกันบ้าง แต่ไม่ต้องหลุดโลกเหมือนเจ๊นะคะ [sandyslides by sandstyles]

slide & presentation

งานนำเสนอส่วนใหญ่มักจะมีรูปแบบเดิมๆจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม๊..ทำไมคนฟังถึงได้นั่งหลับ อยากจะนำเสนอได้อย่างเร้าใจต้องมาหัดทำสไลด์แบบเจ๊แซนรับรองว่าเข้าใจง่ายแน่นอน เจ๊แซนรับจ้างทำ งานนำเสนอ หรือ presentation ทั่วราชอาณาจักรด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็นแบบส่งงานกับจารย์ งานวิจัย ขายของ อบรม แนะนำบริษัทฯ นำเสนอผลงานประจำปี หรือ โดนใบสั่งให้นำเสนองาน สนใจติดต่อ sandyslides@gmail.com ค่ะ

more about me..

เจ๊แซน เป็นสาวออฟฟิศที่ชอบไถงาน มีชีวิตแบบพอเพียง รักหมา ปากร้าย และสมาธิสั้น ชอบทำงานศิลปะ งานที่ทำมักจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลก่อนเสมอ จึงทำให้ได้บริหารสมองทั้งสองซีกจำเป็นต้องโกรกหงอกทุกเดือน ส่วนงานออกแบบการนำเสนอ หรือ powerpoint นั้นเป็นงานหนึ่งที่เจ๊ชอบเป็นอย่างยิ่ง มันท้าทายที่จะทำอย่างไรให้คนที่ดูสไลด์ของเจ๊แล้วไม่หลับ หวังไว้ว่าเทคนิคที่เจ๊นำมาแบ่งปันคงช่วยให้หลายคนทำสไลด์ได้สนุกขึ้นนะคะ

ปัญหาการทำสไลด์ แบบดูเอง ...แล้วก็งงเอง

สวัสดีปีงูยักษ์ หลังจากถูกน้ำเหนือบุกกรุง ทำให้ชีวิตเจ๊ ลุ่มๆดอนๆ ใช้ชีวิตเยี่ยงเจ้าไม่มีศาล เพราะบ้านที่อยู่โดนน้ำท่วมส่งผลให้โอนบ้านไม่ทัน ... ช่างหนีน้ำ เลยต้องกลับมาใช้ชีวิตวิ่งรถล้อขวิด ระหว่างบ้านนอก - กรุงเทพทุกอาทิตย์ เท่านั้นยังไม่พอ โชคชะตายังกลั่นแกล้งให้นังซินอย่างเจ๊ .. ถูกเด็กแว๊นซ์แถวบ้าน สอยรถคันงามของเจ๊ หน้ายับ ต้องวิ่งหาศูนย์ซ่อมจ้าละหวั่น

อะ อะ เม้าส์มอยเสร็จ ก็มาเคาะสนิมกับปัญหาที่น้องๆถามกันเข้ามาบ่อย ว่า "ทำไมหนูทำออกมา แล้วมันดูงงๆ" เจ๊ไม่รอช้า รีบเปิดดูงานทันที จะไม่ให้ไม่งงได้เยี่ยงไร คุณน้องยัดอะไรใส่เข้าไปเนี่ยะ จะผัดผักรวมมิตรหรือเปล่าค๊าคุณน้อง

ปัญหาการทำงานนำเสนอที่พบมาก คือการจัดเรียงเนื้อหาที่ไม่มีความต่อเนื่องและเกี่ยวข้องกัน ทำให้เกิดอาการ "หน่วง" พูดจาเริ่ม ติดอ่าง ตะกุก ตะกัก และถ้าคุณโดนจี้มากๆ ก็จะคอหักเพราะตกม้าตาย ทำการบ้านมาไม่ดี


















หลักการทำงานนำเสนอให้ไม่งง

จดทุกอย่างที่คุณอยากเล่า ลงในกระดาษ A4 เขียนไปทุกสิ่งอย่าง ที่คุณรู้ อยากบอกกับคนฟังมากมาย
เขียนจนกว่า คุณรู้สึกว่า "หมดละ" 


จากนั้นอ่านสิ่งที่เขียน แล้วค่อยๆจับมาเป็นกลุ่มๆ ว่าหัวข้อที่เขียน ควรจะอยู่ในเรื่องเดียวกันหรือไม่ เมื่อแยกได้เสร็จ คุณก็จะมองภาพค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆ ขั้นตอนต่อไปคือการ "จับจุด" ว่าเรื่องที่จะสื่อนั้น สาระสำคัญของมันคืออะไร คิดมาเป็น KEYWORD สั้นๆ


ต่อมาคือการเรียงลำดับเรื่อง เพื่อความไหลลื่นของข้อมูล และเลือกภาพ ซึ่งการเรียงลำดับเรื่องที่จะเล่านั้น หลายคนก็งงอีกเหมือนกันว่าจะลำดับเรื่องยังไง ... ส่วนนี้เอาไว้บ้านเจ๊เสร็จ รถเจ๊ซ่อมแล้ว จะมาเฉลยกันต่อไป


ข้อห้ามในการทำสไลด์ คือ อย่าเพิ่งลงมือทำ ถ้ายังคิดไม่เสร็จ เพราะการลงมือทำงานไปพร้อมๆกับคิดงานไปด้วย สิ่งที่ได้คือ คุณจะทำสไลด์แบบหาจุดอวสานไม่ได้ สิ่งที่จะเจอต่อมาคือ หน้าสไลด์เยอะขึ้น และคุณจะเล่าเรื่องไม่ถูก นายก็งง คุณก็งง เวลาประเมินผลสิ้นปี อาจจะได้เกรดงงๆเหมือนกันนะค๊า แล้วจะหาว่าเจ๊ไม่เตือนนนนน

อยากทำ powerpoint เป็นวิดีโอ ตอนที่ 1

เจ๊แซนมาแล้ว.. มาพร้อมกับไฟแค้นที่รุมเร้าจิตใจ เลยทำให้เจ๊หงุดหงิดคิ้วขมวดเพราะความ "โง่เขลา" ของตัวเองที่หลงทะลึ่งไปรับงานบริษัทฯใหญ่โต อาจเป็นเพราะกรรมเก่าเลยทำให้โดน "ชักดาบ" ไปโดยปริยาย หายไปพร้อมกับผลงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการออกแบบโดยเจ๊แซนแต่อย่างใด

ปัญหาของบริษัทฯส่วนใหญ่ อยากจะนำเสนอชิ้นงานผ่านสื่อวิดีโอ แต่ต้องการประหยัดงบประมาณค่าออกแบบที่ราคาสูงลิ่ว ทางออกก็คือ หันมาทำสื่อนำเสนอโดยใช้โปรแกรม powerpoint แต่ดัดแปลงให้อยู่ในรูปของ dvd/ vcd นั่นเอง ดูเหมือนง่ายๆที่ใช้โปรแกรมฉลาดๆแปลงไฟล์ รอไม่กี่นาทีเดี๋ยวก็เสร็จ แต่เจ๊แซนขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเอาออกมาดูแบบผ่านๆก็คงจะโอเค แต่ถ้าออกจอทีวี หรือ จอกว้าง .... งานเข้าแน่ๆค่ะ เข้าหาเจ๊..จนต้องหาเวลามาเล่าประสบการณ์ "การโดนขืนใจในชิ้นงานเจ๊..อย่างย่อยยับ"

การทำ powerpoint เป็น วิดีโอ มีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะ สไลด์ที่เน้นการทำ animation หรือ fade ข้อความให้ตรงกับบทพูด เวลาใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ สิ่งที่เจ๊แซนเจอบ่อยๆ คือ ภาพไม่ตรงกับเสียง ทำให้แก้ยังไงงานก็ไม่ออกมาเนียน เสียเวลาอีกต่างหาก แต่ถ้าเน้นภาพสไลด์เล่นไปเรื่อยๆเพียงแต่ใส่เสียงเพลงประกอบ ...ก็ผ่านนะคะ โช๊ะเด๊ะ!!

กรณีที่อยากเอางานออกมาเป็น dvd/ vcd แล้วคาดหวังว่า จะมีการทำกราฟฟิคหรูๆ ไตเติ้ลแบบไฮโซพร้อมเสียงเพลงประกอบให้เร้าใจ เราสามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่..ต้องทำโดยใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเท่านั้นนะจ๊ะ การผลิตชิ้นงานประเภทนี้ ก็มีข้อจำกัดสำหรับงาน powerpoint เช่น พวกแอฟเฟ็คต่างๆที่เราตั้งไว้ในงาน เช่น เอาข้อความนี้ขึ้นก่อน-หลัง  ตั้งให้กระพริบ หมุนไปมา ... บลา บลา บลา
ก็จะอันตธานหายไปเหมือน "เงิน" เจ๊ด้วย เนื่องจากเราต้องทำสไลด์ให้ออกมาเป็นรูปภาพ ถึงจะนำมาใส่ในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอได้ แต่ใช่ว่าภาพจะคมชัดนะจ๊ะ เนื่องจากเราทำสไลด์ในโปรแกรม powerpoint ซึ่งขนาดของภาพ เราตั้งค่ามาตรฐานสำหรับจอคอมพิวเตอร์ มันก็จะดูได้ดีในจอคอมฯ แต่เมื่อไหร่ที่เราทำออกมาเป็นแผ่น dvd/vcd ความละเอียดมันจะไม่เท่าจอคอม ภาพที่ออกมาจะดูเบลอๆ ตัวหนังสือไม่คมชัด ... ยิ่งพวกทำสไลด์แบบยก e-book มาทั้งหน้า ประเภทตัวอักษรเรียงกัน เหมือนตั้ง stand cheer รอแปลอักษร .. อย่าว่าแต่เอาแว่นขยายส่องเลยค๊า ซูมแล้ว ซูมอีก ก็ไม่ดีขึ้นค่ะ

เจ๊แซนขอสรุป กันงงนะคะ เดี๋ยวต่อ ตอน 2 จะยกตัวอย่างให้เห็นกันจะจะ ดังนั้นถ้าคุณคิดจะทำงานนำเสนอออกมาในรูปแบบวิดีโอ มีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้นะจ๊ะ

แบบที่ 1 แปลงโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ที่ทำขึ้นมาเพื่อแปลง powerpoint เป็น video




   













ข้อดี : ความคมชัด และแอนนิเมชั่น ที่ตั้งไว้สามารถนำเสนอออกมาได้ครบถ้วน เหมาะสำหรับใส่เพลงประกอบที่ไม่ต้องคำนึงถึงการตั้งเวลาการเล่น

ข้อเสีย : กรณีที่ลงเสียงพูดประกอบแต่ละสไลด์ ความยากในการตั้งเวลาการเล่นให้สอดคล้องกับบทพูด เมื่อเราแปลงไฟล์ สิ่งที่เจอหรือพบบ่อยคือ ไม่เสียงเล่นก่อนภาพ หรือไม่ก็ ภาพออกก่อนเสียงพูด และข้อด้อยของโปรแกรมประเภทนี้ก็คือ มีลูกเล่นน้อยมาก ตั้งค่าอะไรได้ไม่มาก เราทำกราฟฟิคมากน้อยอย่างไร ก็ออกมาตามที่เราตั้งไว้เลยค่ะ ส่วนการทำไตเติ้ลหรือ มัลติมีเดียหรูเริ่ดเหมือนที่ dvd หรือ vcd ที่เค้าทำๆกัน ถ้าคุณไม่ตั้งหรือออกแบบในสไลด์ของคุณ ส่วนนี้จะหายไปนะคะ แต่โปรแกรมบางตัวก็มีสำเร็จรูปให้ แต่ไม่ได้หวือหวาอะไร และมีให้เลือกน้อยมาก บางทีก้ไม่ค่อยเข้าหับเนื้อหาของเราเท่าไหร่ต้องขอทำความเข้าใจไว้เลย เพราะโปรแกรมประเภทนี้ แปลงแบบม้วนเดียวจบข่าว

แบบที่ 2 แปลงโดยใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ






ข้อดี : ความแม่นยำของ script และ timeline เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูงในเรื่องความแม่นยำของข้อมูลนำเสนอ ความต่อเนื่อง และมีไตเติ้ลสำเร็จรูปให้เลือกใช้เพื่อความเก๋ก่อนเข้างานนำเสนอ ดูเป็นมืออาชีพกว่าแบบแรก

ข้อเสีย : ต้องแปลง powerpoint เป็นรูปภาพ หรือ ภาพนิ่ง ก่อนจะนำมาใช้ เนื่องจากโปรแกรมถูกออกแบบมาเพื่อตัดต่อวิดีโอ และภาพนิ่ง ดังนั้นแอนนิเมชั่นที่ตั้งค่าไว้ก็จะหายไป เราสามารถใส่ effect ได้เหมือนกัน แต่เป็นเพียงแค่ เฟดภาพเข้าออก ซ้ายขวา หน้าหลัง ทำภาพสั่นไหว แต่ชิ้นงานจะออกมาเป็นหน้าโดดๆเลย ไม่สามารถกำหนดว่า จะเอา paragraph ขึ้นมาก่อนหรือหลังได้ เพราะเราได้แปลงเป็นภาพนิ่ง ส่วนความคมชัดขึ้นอยู่กับค่าของหน้าจอที่คุณตั้งไว้ตอนทำสไลด์ เพราะเวลาแปลงออกมาในรูป dvd/ vcd สามารถแปลงได้ในระบบ DV 4:3 สำหรับแสดงผลบนจอทีวีทั่วไป และ DV 16:9 สำหรับทีวีแบบ Widescreen ดังนั้นหากไม่ตั้งตั้งแต่เริ่มทำสไลด์ ก็เตรียมรำวงรับความเบลอได้เลยค่ะ

ตอนนี้ เราเน้นเทคนิคโดยรวมจะได้พอทำความเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะคะ จะได้รู้ถึงข้อจำกัดการทำสไลด์ว่ามีข้อดีข้อเสียยังไง แต่เจ๊แซนคงเข็ดไปอีกนาน ได้แต่หวังว่าอย่าให้ใครทะลึ่งรับงานกับบริษัทฯนี้อีก คิดแล้วแค้น ใจก็อยากให้บริษัทฯของเจ๊ยกเลิกสัญญาการจ้างมันทั้งตึก เห็นโลโก้แล้วแสลงใจเจ๊สุดๆ โกงได้แบบเผาขน ตอนเอางานมาให้บอกงบไม่อั้น เร่งแล้วเร่งอีก .... ตูอุตส่าห์อดหลับอดนอน มีการแนะนำเจ๊ด้วยนะว่า สามารถนำผลงานมาใช้อ้างอิงได้ แต่ขอให้เอาโลโก้ออก ...... แหม เจ๊อยากบอกใจจะขาดว่า ถ้าเอาโชว์เจ๊แซนก็ขายหน้าแย่อ่ะสิค๊า เพราะผิดหลักการทำสไลด์ที่ดีของเจ๊ ที่เจ๊ยกตัวอย่างมาหมดทุกข้อ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ..... ลองกลับไปอ่านบทก่อนๆที่เจ๊เขียนไว้นะคะ พ่อคุณณณณ

เดี๋ยวต่อตอน 2 เจ๊จะยกตัวอย่างให้ดูกันนะจ๊ะ ท้ายนี้ภาวนาให้เจ๊แซนเลิกกินหญ้าแล้วหันมากินข้าวเหมือนเดิมนะคะ ปล.ถึงพ่อเจ้าประคุณที่ชักดาบเจ๊ไป ... เมื่อเข้ามาอ่านบทความนี้โปรดพึงสังวรณ์ไว้ว่า
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง แล้วเลขบัญชีธนาคารที่ขอไป เอาไปแทงหวยหรือไงจ๊ะพ่อ...

http://sandyslides.blogspot.com

10 ข้อหลัก ที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้รูปภาพประกอบการทำสไลด์ (พร้อมตัวอย่าง)

เจ๊แซนมาแล้วค่า ... รีบมาปล่อยของต่อ หลังจากแอบเป็นกองหนุนของพลังเสื้อหลากสีมาเกือบอาทิตย์ รวมทั้งงานประจำก็มีเข้ามาไม่ขาดสาย กว่าเจ๊แซนจะแยกสมองมาเคาะงานได้ ก็เล่นเลื่อนมาหลายวัน ..นานโขอยู่เหมือนกันเนอะ นานจนแฟนคลับเจ๊แซนแอบจิกกัด ... จะใครละค๊า "ดร.เสรี" หรือ "มิสเตอร์สตีฟ" ของเรานั่นเอง

รอบที่แล้ว เจ๊แซนได้พูดถึง "การเลือกใช้รูปภาพประกอบ" ในการทำสไลด์ ซึ่งบางคนอาจจะจินตนาการไม่ออก นิมิตรยังไงก็ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง จนแอบรำพึงในใจว่า "มันเป็นยังไง... มันต่างจากที่เราทำตรงไหนฟะ" เจ๊แซนเลยต้องรีบเอามาลงให้ดู แบบ "แฉกันจะจะ" ไปเลย อ่ะ.... เจ๊เอาจริงแล้วนะ

รูปภาพประกอบ หรือ ภาพต่างๆ ไม่ว่าจะถ่ายโดยกล้องดิจิตอล ราคาถูก หรือ ราคาแพง หรือ หาได้ตามเวปรูปภาพชื่อดัง หรือ กำลังจะดัง ซึ่งเจ๊แซนเชื่อว่า แฟนคลับของเจ๊คงต้องสอยมาซักที่เพื่อนำมาทำ powerpoint presentation แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่บางคนลืม "ใส่ใจ" จนทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น เรามาดูตัวอย่างกันเลยนะคะ

โจทย์คือ:  ปัญหาของการศึกษาในประเทศญี่ปุ่น ที่มีจำนวนนักเรียนลดลง อันเนื่องมาจากปัญหาการมีบุตรยากจึงทำให้ประชากรไม่นิยมมีลูก หรือ มีเด็กเกิดใหม่น้อยลงเมื่อเทียบกับคนสูงอายุ 

การนำเสนอ : "ให้เน้นอัตราการมีบุตรยาก จึงส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา"

10 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง ในการใช้รูปภาพประกอบการทำสไลด์



















 1. เลือกใช้ภาพที่"เล็กเกินไป" - ปกติหน้าจอเวลาฉายออกเครื่องโปรเจ็กเตอร์จะมีขนาดสไลด์ 800 x 600 แต่ลองดูตัวอย่างที่ให้มานะคะ ภาพที่ใช้ มีขนาดแค่ 183 x 152 ซึ่งการวางองค์ประกอบก็ไม่เหมาะสมแล้วค่ะ เลยทำให้ เนื้อความที่จะสื่อดูแค่ผ่านตา ไม่รู้สึกว่ามันจะสำคัญยังไงเลย 





















2. ปัญหาเรื่องการวางรูปไม่ถูกตำแหน่ง - จากตัวอย่างรูปภาพมีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่าย แต่ตัวเลขที่เราจะสื่อความหมายมันมีบางตัวเข้าไปอยู่ในภาพ จึงให้ความรู้สึกว่า "ตกลงมันตั้งใจติสท์" หรือยังไงกันแน่ การวางรูปในสไลด์นี้จึงให้ความรู้สึกว่า "มันวาง...มั่วแน่นอน" องค์ประกอบของเนื้อหาจึงอาจทำให้ขัดๆต่อความรู้สึกของคนดู ในการตั้งคำถามแม้จะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาก็ตาม..

























3.  รูปภาพใหญ่ดีดูเกือบเต็มจอ แต่ทำไมไม่ทำให้มันเต็มไปเลยอ่ะ - อย่างที่เจ๊แซนบอกในตอนแรกๆนะคะ ว่าเราต้อง"ใส่ใจ" จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า เราเน้นให้รูปขยายจนเป็น background แต่เมื่อนำไปฉายออกเครื่องแล้ว ภาพที่สื่อมันดูมาแบบไม่ครบ มาแบบไม่สมบูรณ์ บางครั้งต้องระวัง background สีพื้นหลังที่ตั้งเป็นค่าเริ่มต้นด้วย บางคนอาจตั้งพื้นหลังเป็นสีขาว หรือสีดำ สังเกตสีของขอบภาพดีๆ วิธีแก้ไขคือ เราต้องไปตั้งค่า ขนาดหน้าจอให้พอดีกับ เครื่องคอมของเรา เช่น คอมเจ๊เป็นแบบ widescreen ขนาดของสไลด์ที่เจ๊ใช้ คือ on screen show 16:9























4. เลือกรูปที่มีความละเอียดของภาพต่ำ - เห็นได้เลยว่า ภาพจะเบลอและแตก ความคมชัดก็หาไม่ได้ ดูแล้วขัดตาเจ๊แซนชมัด ... เป็นเจ๊นะ จะสอยเอารูปลง โชว์มันแต่ตัวเลข ยังดูดีกว่าอีกเนอะ
























 5. ภาพที่ขโมย หรือ จิ๊กของคนอื่นมา - จริงๆแล้ว เจ๊แซนก็ชอบหาของฟรีนะคะ แต่ตัวอย่างนี้ ประเภทอยากได้แต่ไม่ซื้อ ขอก๊อปมาใช้ซักหน่อย ... มาเป็นลายน้ำเลยค่ะ ประมาณว่า "ตูไม่ซื้อ" แต่โลโก้ของเจ้าของเค้าโชว์หราออกอย่างนี้ ก็ใช้ไม่ได้นะค๊า ควรหลีกเลี่ยงอย่างแร๊งงงง
















 6. ขยายภาพผิดส่วน - คนที่พลาดส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีหัวทางด้านศิลปะซักเท่าไหร่ ขอให้ได้ยืด-ขยายตามใจฉัน ดูตัวอย่างนะคะ ทางซ้ายยืดยาวซะเหมือน "น้องเปรตสาว...แต่งตัวไปเรียน" ส่วนขวามือ "หดเป็นคนแคระ" เลยค่ะ ภาพผิดส่วนเจ๊แซนเห็นบ่อยมาก ทางที่ดีหลีกเลี่ยงดีกว่านะคะ วิธีแก้ปัญหาคือให้ย่อ-ขยายที่มุมภาพ จะลดปัญหาการผิดส่วนได้ดีทีเดียว จริงๆแล้วเจ๊แซนมีเทคนิคการใช้โปรแกรม powerpoint อีกเพียบรอต่อไปนะคะ เดี๋ยวจะแชร์ให้ในรอบไหนก็ไม่รู้ ..อิอิ







7. การทำให้ภาพกลายเป็นพื้นหลังไปเลย - ดูกันเอาเองเลยนะคะว่าบางครั้งการใช้โปรแกรมทำให้รูปกลายเป็นพื้นหลัง ไม่ได้หมายความว่า มันจะฉลาดทำรูปที่เราเลือก ย่อหรือขยายได้ตามอัตราส่วนของเราเสมอไป สิ่งที่เราจะเจอคือโปรแกรมจะนำภาพที่เราเลือก มาปะต่อกันซึ่งจะเรียงกันมากน้อยแต่ไหนก็ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพเรานั่นเองค่ะ




8. การเลือกใช้รูปภาพ clipart - เจ๊แซนออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้กัดใคร .. คือว่า ที่เจ๊เรียนมา กูรูทางนี้เค้าบอกว่าใครที่เลือกใช้ภาพ clipart ในการทำสไลด์เนี่ยะ แสดงว่าหลุดมาจากอดีตชาติเลยทีเดียว..เชียว เพราะมันทำให้ดูตลกแล้ว ความน่าสนใจก็บิยหายไปกับ นกกระสาเลยค่ะ ... คิดได้ไงเนี่ยะ อัตราการมีบุตรลดจำนวนลง เลือกนกกระสาคาบทารกน้อย .... ดูน่ารักดีค่ะ แต่เจ๊แซนให้กลับไปแก้งานเดี๋ยวนี้เลย ไม่ผ่าน ไม่ผ่าน





















9. เลือกรูปไม่เหมาะกับเนื้อหา - แหม เราพูดกันเรื่องอัตราการเกิดใหม่มันลดลง แต่ภาพพื้นหลังที่เป็นรูปแผนที่ ถ้าจะทำให้ประเทศญี่ปุ่นเด่นขึ้นมา ก็ผ่านนะคะ แต่ตัวอย่างนี้ ประเทศญี่ปุ่นอยู่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังมีมือผู้ชายจับกันอีก ถ้าเสนอในเชิงธุรกิจ ผ่านฉลุย แต่อัตราการเกิด มันคงเป็น"ศูนย์" ก็ชัวร์ล่ะ ชายกับชาย ได้กันยังไงท้องได้ที่ไหนล่ะใช่ป่ะ ..... อย่าพลาดเลือกรูปที่ไม่เหมาะกับเนื้อหาของเรานะคะ ตกม้าตายชัดๆ ดีไม่ดี อาจแอบจินตนาการพิลึกๆอย่างเจ๊แซนขึ้นมา อย่ามาโทษกันล่ะ














10. ภาพประกอบพื้นหลังลายตามากเกินไป - บางครั้งอาจดึงจุดเด่น นั่นก็คือเนื้อหาลดลงไปด้วยหากคุณคิดที่จะเลือกภาพพื้นหลังที่ดูลายตา หลากหลายสีสัน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ การจะทำให้เนื่้อหาเด่นขึ้นมา เราต้องทำพื้นหลังตัวอักษร เพื่อที่จะให้ตัวอักษรเห็นได้ชัดและสื่อความหมายได้


เล่นเอาเจ๊แซนหอบไปเลย.....กว่าจะยกตัวอย่างครบ แต่หวังว่าคงนำเทคนิคนี้ไปใช้ประโยชน์กันได้บ้างนะคะ ตอนหน้าอาจจะเอาเทคนิคการใช้ powerpoint มาแชร์บ้าง ลองแวะเข้ามาดูกันเรื่อยๆนะจ๊ะ

http://sandyslides.blogspot.com